ข้ามไปเนื้อหา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี Anopheles หรือ ยุงก้นปล่อง เป็นสกุลของ ยุง ที่มีบทบาทเป็นพาหะของโรค มาลาเรีย, โรคเท้าช้าง และอีกหลายโรค ลักษณะ [ แก้] ลักษณะเด่นประจำสกุลที่ใช้จำแนกได้ง่ายคือสังเกตจาก ท่าขณะดูดเลือดที่กระดกส่วนท้อง เป็นมุมสูงกว่ายุงสกุลอื่น การค้นพบ การจำแนก และบทบาทในการระบาดของโรค [ แก้] โยฮันน์ วิลเฮล์ม เมเกน นักกีฏวิทยาชาวเยอรมัน พรรณนาและตั้งชื่อสกุลครั้งแรกในปี ค. ศ.
สภาวะหลังน้ำท่วมใหญ่ในหลายภาคของประเทศไทย ทำให้เกิดมีน้ำท่วมขังตามแหล่งต่าง ๆ ในวงกว้างที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของยุงหลายชนิด ที่กำลังเป็นปัญหาหนักในขณะนี้คือการมีกลุ่มยุงรำคาญจำนวนมากในทุกพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ยุงรำคาญมีหลายสกุล แต่ที่พบมากในขณะนี้คือ คูเลกซ์ ควินคิวแฟสเวียตัส (Culex quinquefasciatus) ที่พบในแหล่งน้ำขังที่เป็นน้ำเน่าเสีย ยุงรำคาญอีก 2 สกุล ที่พบได้มากในประเทศไทย ได้แก่ เจลิดัส (Cx. Gelidus) และ ไตรเตนิโอรินคัส (Cx. Tritaeniorhynchus) ซึ่งเป็นยุงรำคาญที่พบลูกน้ำอยู่ในหนองน้ำ น้ำขังตามไร่นา น้ำตามรอยเท้าสัตว์ กลุ่มยุงรำคาญเหล่านี้เป็นพาหะนำโรคไข้สมองอักเสบ โรคเท้าช้างในคน และโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข ยุงที่นำโรคที่สำคัญอีก 3 กลุ่มคือ กลุ่มยุงลาย สองสกุลที่สำคัญคือ Aedes aegypti (ยุงลายบ้าน) และ Ae.
ยุง yoong M Royal Institute - 1982 ยุง /ยุง/ [นาม] ชื่อแมลงขนาดเล็กหลายชนิดในวงศ์ Culicidae โดยทั่วไปลำตัวยาว ๓ - ๖ มิลลิเมตร มีปีก ๑ คู่ ปีกมีเกล็ดติดอยู่ตามเส้นปีกและอาจจะคลุมไปถึงหัวและลำตัวด้วย หนวดยาว ขนที่ปกคลุมหนวดของตัวเมียสั้น ของตัวผู้ยาว ปากเป็นชนิดเจาะดูด เช่น ยุงรำคาญ ในสกุล Culex ยุงลาย ในสกุล Aedes ยุงก้นปล่อง ในสกุล Anopheles เฉพาะตัวเมียกินเลือด.
อาจใส่เชื้อประมาณเดือนละ 1 ครั้ง หรือใส่เชื้อเมื่อเห็นว่ามีลูกน้ำยุงรำคาญเพิ่มขึ้นมาในบริเวณน้ำท่วมขังแต่หากน้ำท่วมขังเป็นน้ำลึกอาจใส่เชื้อบ่อยขึ้น เช่น ใส่เชื้อทุก 2 อาทิตย์ เชื้อบีเอสที่ผลิตได้มีความเข้มข้นสูงจึงควรเจือจางโดยใช้ผลิตภัณฑ์ 1 ส่วนผสมกับน้ำ 9 ส่วน โดยน้ำที่ใช้อาจเป็นน้ำประปาหรือน้ำฝน แต่ไม่ควรใช้น้ำแกว่งสารส้ม เพราะสารส้มจะทำให้เชื้อตกตะกอนและจะลดประสิทธิภาพในการกำจัดลูกน้ำยุง เนื่องจากการแพร่ระบาดของยุงรำคาญเกิดในวงกว้าง ดังนั้นต้องมีการผลิตเชื้อแบคทีเรียจำนวนนับแสนลิตรในอนาคต
อภิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงต้องเตรียมความพร้อมในการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการเพื่อให้สามารถตรวจหาเชื้อในกรณีที่จำเป็นได้ ตามแนวทางกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR 2005) และต้องพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับป้องกันกำจัดยุงพาหะ ตลอดจนประเมินเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้อไวรัสทั้งสองชนิดในผู้ป่วยและยุง โดยการตรวจหาสารพันธุกรรมด้วยวิธี RT-PCR ผลการตรวจตัวอย่างเลือดผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อไข้สมองอักเสบเจอี ระหว่างปีพ. 2543-2558 จำนวน 7, 756 ตัวอย่าง พบผู้ป่วยจากไข้สมองอักเสบเจอีประมาณ 20 -122 ราย และจากการตรวจตัวอย่างเลือดผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อไข้สมองอักเสบเวสต์ไนล์ ระหว่างปี พ.